มันไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ที่จะตัดสินใจละทิ้งชีวิตประจำวันทั้งหมดและมุ่งหน้าเข้าสู่สถานบำบัดเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดยาเสพติดหรือการบำบัดสุขภาพจิต ทั้งหมดนี้แทบจะเหมือนกับการฝากชีวิตไว้กับคนแปลกหน้า นอกจากนี้หลังจากที่ผู้เข้ารับการบำบัดตัดสินใจเข้าสู่ประบวนการบำบัด ยังต้องใช้เวลากว่าที่พวกเขาจะเปิดใจและให้ความไว้ใจกับทีมงานซึ่งเป็นคนแปลกหน้า โดยเฉพาะในเวลาที่พวกเขายืนอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดของชีวิต บทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจได้กระจ่างขึ้นว่าผู้เข้ารับการบำบัดจะคาดหวังอะไรได้บ้างจากสถานบำบัด
มีสุขภาพองค์รวมที่ดีขึ้น
ความจริงคือ: กระบวนการบำบัดยาเสพติดและสุขภาพจิตเป็นกระบวนการที่ใช้เวลา ความพยายาม และองค์ความรู้ทางการแพทย์เฉพาะทางที่เข้มข้น เฉกเช่นเดียวกับการรักษาโรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิต และมะเร็ง ผู้ที่เคยผ่านกระบวนการรักษาโรคเรื้อรังดังที่กล่าวมาเบื้องต้นแล้ว จะเข้าใจดีว่าการทำงานร่วมกันระหว่างทีมแพทย์และผู้ป่วยนั้นสำคัญเพียงใด และมันสร้างความแตกต่างในกระบวนการรักษาได้มากแค่ไหน
ทั้งนี้ การเข้าสู่กระบวนการบำบัดยาเสพติดและสุขภาพจิดก็เช่นเดียวกัน โดยรวมแล้วมันคือกระบวนการที่จะช่วยให้ผู้เข้ารับการบำบัดได้หันมาใส่ใจสุขภาวะในองค์รวม โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคอยให้คำชี้แนะตลอดเส้นทาง ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการบำบัดนั้น ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตัดสิน และไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าสบายดี ทั้ง ๆ ที่ในใจนั้นเป็นทุกข์ เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการบำบัด ทีมแพทย์จากสถานบำบัดจะเริ่มทำการประเมินสุขภาวะทางกายและใจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะครอบคลุม ดังนี้
การประเมินสุขภาวะทางร่างกายและสมอง จากแพทย์เฉพาะทางด้านการถอนพิษและบำบัดสารเสพติด
การประเมินสุขภาวะทางจิต จากนักจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัด เพื่อประเมินสุขภาวะโดยองค์รวม
ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญแขนงต่าง ๆ จะร่วมประเมินอาการ สภาวะแวดล้อมของผู้เข้ารับการบำบัด เพื่อออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบุคคลนั้น ๆ โดยเฉพาะ
สุขภาวะองค์รวมรอบด้านเป็นสิ่งสำคัญ
แผนการบำบัดมีความสำคัญต่อกระบวนการรักษาในระยะยาว เนื่องจากมันถูกรวบรวมขึ้นมาจากข้อมูลอันเป็นองค์ประกอบพื้นฐานเช่น ประสบการณ์ที่ผ่านมา สาเหตุของปัญหา และกระบวนการพัฒนาสุขภาวะของผู้เข้ารับการบำบัด สถานบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดเอกชนที่ได้มาตรฐาน จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมทำงานกับผู้เข้ารับการบำบัดอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินพัฒนาการ และปรับปรุงแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสภาวะทางกายและใจ และในขณะเดียวกันก็สอดคล้องกับความต้องการของผู้เข้ารับการบำบัดด้วย ทั้งนี้เพื่อพัฒนาทั้งสุขภาวะทางกาย ใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณ ซึ่งมักจะถูกนิยามว่าเป็นการดูแลสุขภาวะแบบองค์รวม
การดูแลสุขภาวะแบบองค์รวมนี้ ดร.นพ. กนก อุตวิชัย ได้กล่าวไว้ว่า “เราพบว่าผู้เข้ารับการบำบัดบางคน เริ่มใช้สารเสพติดเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพจิต บางคนก็เกิดจากการใช้ยาบางประเภทในการรักษาร่างกายจนเสพติดยานั้น ๆ บางคนเริ่มจากการใช้สารเสพติดจนลุกลามไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต ทำให้ต้องวนกลับมาใช้ซ้ำ ๆ ในปริมาณที่มากขึ้น ทีมแพทย์ของเราจึงต้องประเมินองค์ประกอบของปัญหาอย่างรอบด้าน เพื่อพัฒนาแผนการรักษาที่ตอบโจทย์ที่สุด และไม่มองข้ามปมปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ”
การติดตามผลหลังกระบวนการบำบัดที่เชื่อถือได้
เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่สถานบำบัดแล้ว ชีวิตประจำวันของผู้เข้ารับการบำบัดจะเปลี่ยนไปอย่างมาก สถานบำบัดจะกลายเป็นบ้าน และที่พักกายใจในระหว่างที่พวกเขาหยุดภาระกิจในชีวิตประจำวันทั้งหมด เพื่อใช้เวลาค้นหาคำตอบให้กับที่ชีวิตที่เหลือของตัวเอง แต่เมื่อต้องกลับไปใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมเดิม ความเครียด และสิ่งเร้าเดิม ๆ อาจส่งผลให้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกหากไม่เข้มแข็งพอ
อย่างไรก็ดีเราจะไม่โกหกคุณ การวนกลับไปใช้ซ้ำอีกเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่สถานบำบัดจะสอนวิธีการ และมีเครื่องมือในการช่วยให้ผู้เข้ารับการบำบัดได้ปรับความคิด ปรับพฤติกรรม และสร้างสมดุลชีวิตได้ดีขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของแต่ละบุคคลด้วยว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้มากน้อยเพียงใด จะปลดปล่อยความเครียดที่เผชิญและหาทางรับมือกับปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้สถานบำบัดที่ได้มาตรฐานจะมีกลไกรองรับ สนับสนุน และช่วยเหลือที่ได้รับการยอมรับทางคลินิคว่าได้ผลดีและครอบคลุมทุกระกับพัฒนาการ
ดังนั้นแผนการฟื้นฟูดูแลระยะเปลี่ยนผ่าน และแผนการฟื้นฟูสภาพเพื่อกลับสู่สังคม จึงสอดแทรกเนื้อหาองค์ประกอบที่จะป้องกันการกลับไปใช้ซ้ำด้วย เช่น มีคู่มือเพื่อให้ผู้เข้ารับการบำบัดและครอบครัวเข้าใจถึงลักษณะสัญญาณเตือนบางประการของการกลับไปใช้ซ้ำ ทั้งนี้อาจรวมไปถึงการเข้ารับคำปรึกษาแบบผู้ป่วยนอก และการเข้ากลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาและแนวทางแก้ปัญหากับเพื่อนที่มีปัญหาคล้ายคลึงกัน
เมื่อจบโปรแกรมการบำบัดแล้ว จึงไม่ได้หมายความว่าผู้เข้ารับการบำบัดจะโดดเดี่ยวและต้องต่อสู่เพียงลำพัง สถานบำบัดที่ได้มาตรฐานจะมีกลไลดูแล และคอยติดตามผลเป็นระยะ แม้จะจบโปรแกรมการบำบัดไปแล้ว ดังนั้นการเลือกสถานบำบัดที่มีกลไกการดูแลที่ครอบคลุม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยประคับประคองให้ผู้เข้ารับการบำบัดสามารถใช้ชีวิตโดยปราศจากสารเสพติดได้ในระยะยาว
เดอะวอร์ม รีแฮบ เหมาะกับคุณไหม
เดอะวอร์ม รีแฮบ คือสถานบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพติดและมีปัญหาสุขภาพจิต ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ก่อตั้งโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการถอนพิษและการบำบัดสารเสพติด ทีมงานประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ใช้กระบวนการบำบัดแบบองค์รวมที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิผลและเหมาะกับคนไทย
ติดต่อเดอะวอร์ม รีแฮบ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานบำบัด โปรแกรมการบำบัด เพื่อช่วยเหลือตัวคุณ หรือคนที่คุณรัก ได้แล้ววันนี้ เพียงแค่ยกสายติดต่อเรา 082-492-4845